-ไมโซโพรสตอลเป็นสารสังเคราะห์ที่มีโครงสร้างคล้ายพรอสตาแกลนดินอี1(prostaglandinE1analogue) ที่นิยมใช้มากที่สุดเนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงมีความปลอดภัย ราคาถูกและมีใช้แพร่หลาย11 ไมโซโพรสตอลทำให้ปากมดลูกนิ่มขึ้นและเพิ่มการหดรัดตัวของมดลูก และการบีบตัวของมดลูกสามารถขับตัวอ่อนของการตั้งครรภ์ออกมา เมื่อใช้ตามขนาดยาที่แนะนำไมโซโพรสตอลจะมีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูก และทำให้ปากมดลูกอ่อนตัวลง ซึ่งเสริมฤทธิ์กับยามิฟิพริสโตน ซึ่งจะช่วยให้ปากมดลูกเปิดและทำให้เกิดการขับชิ้นส่วนของการตั้งครรภ์ออกได้ง่ายขึ้น
การศึกษาทางเภสัชวิทยาเปรียบเทียบการใช้ยาไมโซโพรสตอลโดยการ
สอดช่องคลอด และทางปากโดยการอมใต้ลิ้น พบว่าการใช้ยาสอดทาง
ช่องคลอด จะทำให้ยาออกฤทธิ์ต่อกล้ามเนื้อมดลูกนานกว่า และทำให้เกิด
การบีบตัวของกล้ามเนื้อสม่ำเสมอ อีกทั้งทำให้ระดับยาในเลือดเพิ่มขึ้น
อย่างช้า ๆ และขึ้นสูงสุดในช่วง1-2 ชั่วโมง และฤทธิ์สามารถคงอยู่นานถึง
4 ชั่วโมงหลังสอดยา โดยค่าของระดับยาที่สูงสุดเมื่อสอดทางช่องคลอด
พบต่ำกว่าการใช้ยาโดยวิธีอมใต้ลิ้น แต่คงที่เป็นเวลานานกว่า การให้ยา
ไมโซโพรสตอลอมใต้ลิ้นจะออกฤทธิ์สูงสุดหลังใช้ 30 นาที แต่จะลดลง
อย่างรวดเร็ว การใช้ยาอมใต้ลิ้นจะออกฤทธิ์เร็วที่สุด ได้ระดับยาสูงสุด และ
มีค่าชีวปริมาณออกฤทธิ์ (bioavailability) มากที่สุดเมื่อเทียบกับการให้ยา
ทางอื่นๆ12,13,14 จากการที่ระดับการออกฤทธิ์ของการใช้ยาสอดทางช่องคลอดที่ต่ำกว่าการใช้ยาอมใต้ลิ้นเป็นผลให้อาการข้างเคียงต่างๆของระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย พบได้น้อยกว่า15เป็นที่ทราบกันดีว่าไมโซโพรสตอล ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่มีโครงสร้างคล้าย พรอสตาแกลนดิน อี1 มีผลต่อมดลูก16 โดยการกระตุ้นให้เกิดการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูก ปากมดลูกอ่อนตัวและขยายออก