สาระน่ารู้

ขายยาสอด

         -คณะกรรมการอาหารและยา ได้อนุมัติให้มีการขึ้นทะเบียน
ตำรับยาเพื่อใช้ในการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย ในเดือนธันวาคม พ.ศ.2557โดยมียาเม็ด 2 ชนิดบรรจุในแผงเดียวกัน ใช้ในอายุครรภ์ไม่เกิน 9 สัปดาห์หรือ 63 วัน ทั้งนี้นับจากวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งสุดท้ายของสตรีที่มีรอบประจำเดือนปกติการใช้ยาเพื่อยุติการตั้งครรภ์ภายใต้กฎหมายและข้อกำหนดแพทยสภานี้ได้มีใช้กันมากขึ้น จากโครงการนำร่องที่ศึกษาในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยส่วนกลาง สู่โรงพยาบาลในส่วนภูมิภาค ดังนั้นการให้ความรู้และข้อมูลสำหรับบุคลากรที่มีหน้าที่ดูแลการใช้ยาดังกล่าวจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพและคุณภาพการดูแลสตรีที่ใช้ยาเพื่อยุติการตั้งครรภ์ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

        –เนื้อหาใน หนังสือแบ่งออกเป็น3 ส่วน หลักๆ ได้แก่ การให้คำแนะนำปรึกษาและการ ตรวจคัดกรองสตรีที่ตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ก่อนเริ่มใช้ยา การดูแลระหว่าง การใช้ยา และการดูแลหลังการใช้ยารวมทั้งการคุมกำเนิด นอกจากนี้คู่มือได้ เสนอแนวทางการปฏิบัติ และดูแลอาการข้างเคียงที่อาจเกิดกับสตรีที่ใช้ยา บริการฉุกเฉินภายหลังการใช้ยา วิธีการดูแลอาการข้างเคียงที่เกิดตามปกติ 3 และอาการที่ผิดปกติที่ควรกลับมาพบแพทย์ อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีที่ สตรีไม่สามารถกลับมาสถานพยาบาลเดิม ที่สำคัญในกรณีฉุกเฉินก็สมควรที่ จะไปขอรับการดูแลจากสถานพยาบาลอื่นๆ ได

ยายุติการตั้งครรภ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในประเทศไทย

-ยายุติการตั้งครรภ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในประเทศไทย
คณะกรรรมการอาหารและยา ได้มีการอนุมัติให้ขึ้นทะเบียนยาชนิดเม็ด2 ชนิดที่บรรจุในแผงเดียวกัน เพื่อยุติการตั้งครรภ์ในสตรีที่ไม่มีข้อห้ามการใช้ยาทางการแพทย์ โดยมีข้อบ่งชี้ในการให้บริการยุติการตั้งครรภ์ภายใต้ข้อกฎหมาย ข้อกำหนดของแพทยสภา โดยสามารถสั่งจ่ายยาได้โดยแพทย์ที่ผ่านการอบรม และไม่พบข้อห้ามใช้ทางการแพทย์สำหรับยาดังกล่าวประกอบด้วยยาเม็ดสองชนิด คือ ยามิฟิพริสโตน(mifepristone) ซึ่งเป็นยาต่อต้านฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน(anti-progesterone) ขนาด 200 มิลลิกรัมจำนวน 1 เม็ด และยาไมโซโพรสตอล (misoprostol) ซึ่งเป็นยาออกฤทธิ์เหมือนพรอสตาแกลนดิน(prostaglandinanalogue)ขนาด200 ไมโครกรัมจำนวน 4 เม็ด สำหรับใช้ใน 24 – 48 ชั่วโมงต ่อมา (โดยให้สอดไว้ในช่องคลอดหรืออมไว้ใต้ลิ้น) ยาทั้ง 2 ชนิด บรรจุในแผงเดียวกัน สำหรับยุติการตั้งครรภ์ในอายุครรภ์ไม่เกิน 9 สัปดาห์ หรือ 63 วัน นับจากวันที่สตรีมีประจำเดือนครั้งสุดท้ายอย่างไรก็ตามยาทั้งสองชนิดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนแยกกันในหลายประเทศ และมีการใช้แพร่หลายสำหรับการยุติการตั้งครรภ์ การใช้ยาจะปลอดภัยมีประสิทธิภาพสูง และมีภาวะแทรกซ้อนน้อยมาก1 หากใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์และพยาบาลที่ผ่านการฝึกอบรม